แม้เกือบตลอดทศวรรษที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเคยเป็นเหยื่อให้หลายๆทีมเชือดในตลาดซื้อ-ขายนักเตะนั้น แต่ในช่วงซัมเมอร์นี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันต่างออกไปจากเดิมแบบสิ้นเชิง

ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับคู่แข่งทั้งหมดของ แมนฯ ซิตี้ ทั้งในประเทศอังกฤษ และในยุโรป หลังจากในเดือนมกราคมของปีนี้ พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” รายงานรายรับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสโมสรที่ 569.8 ล้านปอนด์ โดยรายได้ประจำปีของพวกเขาแซงหน้าทีมเพื่อนบ้านอย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกอีกด้วย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมามีรายรับอย่างมหาศาล

มีการคาดการณ์กันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะกลับมาครองตำแหน่งสโมสรในอังกฤษที่มีรายรับสูงสุดหลังจากฟุตบอลกลับมาสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ก่อยหน้านี้ทุกประเทศทั่วโลกเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19

อย่างไรก็ตาม การเติบโตทั้งใน และนอกสนามของ แมนฯ ซิตี้ ทำให้พวกเขาเบียด แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นมาเป็นอับดับ 1 และดูเหมือนว่า พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” ไม่ต้องพึ่งเงินของ กลุ่มทุนอาบู ดาบี (Abu Dhabi United Group Investment and Development Limited) ซึ่งนำโดย ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน อีกแล้ว

แมนฯ ซิตี้ ได้รับการสนับสนุนจากของสปอนเซอร์ และพันธมิตรหลายรายจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และถึงแม้ว่ารายได้เชิงพาณิชย์จำนวนมากจะมาจากภูมิภาคเดียวกับเจ้าของสโมสรอย่าง มานซูร์ นั้น แต่ก็ไม่มีข้อตกลงใดที่ระบุว่า พวกเขาทำผิดกฎของพรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า

ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แสดงให้เห็นว่า รายได้มหาศาลจากนอกสนามไม่ได้รับประกันความสำเร็จ และบางทีทุกๆสโมสรจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญในตำแหน่งสำคัญต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่า สโมสรจะประสบความสำเร็จในทุกๆด้าน และตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ กำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการมีบุคคลที่ยอดเยี่ยมทำงานอยู่เบื้องหลัง

แมนฯ ซิตี้ จ้างกุนซือที่เก่งที่สุดลำดับต้นๆของโลกอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีม ขณะที่ ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการฟุตบอล และ เฟร์ราน โซเรียโน่ หัวหน้าผู้บริหาร ที่เข้ามาทำงานตั้งแต่ปี 2012 นั้น ก็มีผลงานโดดเด่นสมัยที่ทำงานกับ บาร์เซโลน่า ในศึกลา ลีกา สเปน

เบกิริสไตน์ และ โซเรียโน่ ได้สร้างรูปแบบมองหานักเตะใหม่ที่ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ สามารถประสบความสำเร็จกับการคว้าผู้เล่นที่มีคุณภาพเข้ามาสู่ทีมได้อย่างยอดเยี่ยม และรวดเร็ว รวมถึงในราคาที่ไม่แพงเกินจริงนัก

ซัมเมอร์ที่ยอดเยี่ยมของ แมนฯ ซิตี้

ในฤดูร้อนนี้มันเป็นตัวอย่างของรูปแบบการทำงานที่ยอดเยี่ยมของ เบกิริสไตน์ และ โซเรียโน่ ที่สามารถหานักเจะใหม่เข้ามาได้ตามความต้องการของ กวาร์ดิโอล่า และปิดจุดอ่อนที่เกิดขึ้นกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อซีซั่นที่แล้ว

เออร์ลิง ฮาแลนด์ ถูกคว้ามาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเกสลีกา เยอรมัน ด้วยค่าตัวเพียง 51 ล้านปอนด์ และที่สำคัญพวกเขาปาดหน้าเอาชนะคู่แข่งอย่าง เรอัล มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน ที่อยากได้ตัว ดาวยิงชาวนอร์เวย์วัย 21 ปีรายนี้ เช่นเดียกัน

คาลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางทีมชาติอังกฤษวัย 26 ปี ที่ซื้อมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ในราคา 42 ล้านปอนด์ ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการลงทุนที่ชาญฉลาดกับผู้เล่นที่ยังมีปีที่ดีที่สุดรออยู่ข้างหน้าเขา ต่อด้วยการลงทุน 14 ล้านปอนด์

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเซ็นสัญญากับ จูเลียน อัลบาเรซ หัวหอกวันเดอร์คิดชาวอาร์เจนไตน์วัย 22 ปี มาจาก ริเวอร์ เพลท

นอกจากนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังคว้าตัว สเตฟาน ออร์เตกา โมเรโน โกล์ชาวเยอรมัน จาก อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์ มาแบบฟรีๆ เพื่อเข้ามาเป็นตัวสำรองด้วย ซึ่งเรียกได้ว่า มันเป็นการเสริมทัพที่ตรงจุดอย่างแท้จริงสำหรับ “เรือใบสีฟ้า”

กาเบรียล เชซุส หัวหอกชาวบราซิล และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ชาวยูเครน ถูกปล่อยให้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ และ 32 ล้านปอนด์ ตามลำดับ

และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกชาวอังกฤษก็ย้ายไปยัง เชลซี ด้วยค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์ ส่วน นาธาน อาเก้ ปราการหลังชาวฮอลแลนด์ ก็กำลังตกเป็นข่าวกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” อย่างต่อเนื่อง

จนถึงตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีกำไรมหาศาลแล้ว เนื่องจากพวกเขาปล่อยนักเตะ 5 คนที่ไม่เคยปรากฏตัวในพรีเมียร์ลีกให้กับทีมของ กวาร์ดิโอล่า ออกไปเรียบร้อยแล้ว ไล่ตั้งแต่ เกวิน บาซูนู โกล์ดาวรุ่งชาวไอริช และ โรเมโอ ลาเวีย กองกลางชาวเบลเยียม ย้ายไปยัง เซาแธมป์ตัน ในราคา 15 ล้านปอนด์  และ 12 ล้านปอนด์ ตามลำดับ

เปโดร ปอร์โร แบ็คขวาชาวสเปน ย้ายไปยัง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในโปรตุเกส ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ดาร์โก้ เกียบี กองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษ ถูกขายให้กับ ลีดส์ ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์และ โค อิตาคุระ กองหลังชาวญี่ปุ่น ก็ย้ายไปยัง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แมนฯ ซิตี้ ทำธุรกิจในซัมเมอร์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นที่น่าพอใจของแฟนบอลอย่างแน่นอน และทีมของ กวาร์ดิโอล่า ก็พร้อมเต็มที่สำหรับลุยไล่ล่าความสำเร็จในซีซั่นใหม่แล้ว